สะพานข้ามแม่น้ำแคว ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขามอำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะสร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่าย สัมพันธมิตรได้แก่ ทหารอังกฤษอเมริกันออสเตรเลียฮอลันดาและนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน และกรรมกรชาวจีนญวน ชวา มลายูไทยพม่าอินเดียอีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่าซึ่งเส้นทาง ช่วงหนึ่ง จะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง
 

ตลาดน้ำดอนหวาย

ตั้งอยู่ที่ ต. บางระทึก อ. สามพราน จ.นครปฐม ริมแม่น้ำท่าจีน ความยาวของตลาดประมาณ 300 เมตร อยู่ติดกับวัดคงคารามดอนหวาย

ข้อมูลการท่องเที่ยว ตลาดน้ำดอนหวาย

ตลาดน้ำดอนหวาย อยู่ใกล้กับวัดดอนหวาย อำเภอสามพราน ภายในตลาดน้ำจะมี อาหารและขนมจำหน่ายมากมาย จนทำให้สถานทีดูคับคั่งไปด้วยผู้คนอันมากมาย มีเรือบริการชมวิวสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน ท่านจะได้พบกับบ้านทรงไทยหลาย ๆ แบบที่หาชมได้น้อยมากในปัจจุบัน และสามารถชมบรรยากาศ อันร่มรื่นและการดำเนินชีวิตของชาวบ้านสองริมฝั่งแม่น้ำท่านจีน 

ตลาดมีลักษณะตัวอาคารเป็นอาคารไม้เก่า ๆ ตั้งแต่อดีตสมัยรัชกาลที่ 6 ที่อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน มีพ่อค้า แม่ค้า นำสินค้า และอาหารมาจำหน่ายในบริเวณวัดดอนหวาย มีตลาดนัดสินค้าทางการเกษตรที่วัดดอนหวายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. และมีเรือบริการนำเที่ยวชมทิวทัศน์ของสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน

ทุกวันนี้นอกจากนักท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียงแล้ว นักท่องเที่ยวจากจังหวัดที่อยู่ไกลออกไป เช่น สุพรรณบุรี ระยอง ฯลฯ รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็จะหาโอกาสแวะมาซื้อหาของกินอร่อย ๆ ที่นี่ 

สำหรับตลาดน้ำดำเนินสะดวก เป็นคลองเล็กๆ ยาวประมาณ 500 เมตร แยกจากคลองดำเนินสะดวก อยู่ในเขตตำบลประสาทสิทธิ์ มีชื่อเรียกต่างกัน เช่น ตลาดน้ำบัวงาม ตลาดน้ำประสาทสิทธิ์ หรือตลาดน้ำหลักห้า ส่วนเวลาเปิดของตลาดน้ำแห่งนี้ก็อยู่ในช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. แต่จะมีเรือมาก ช่วงเวลา 06.30-08.00 น. มีเรือผลไม้ เรือขนม เรือก๋วยเตี๋ยว และอาหารนานาชนิด และตลาดจะเริ่มวายเวลาประมาณ 11.00 น.

ก่อนอื่นเลย เมื่อมาถึงทางเข้าตลาดน้ำ ให้คุณจอดรถทิ้งไว้ปากซอยทางเข้า แล้วมองหาเรือเช่า เพื่อพาลัดเลาะชมความงาม หากได้นั่งตั้งแต่ต้นซอยเข้าไปก็จะได้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านริมคลองดำเนินกันเลย ชาวบ้านหลายครัวเรือนออกมานั่งยิ้มต้อนรับนักท่องเที่ยว แม่บ้านแม่เรือนทั้งหลายลงมาล้างจานชามกันริมน้ำ เด็กๆ ยังคงโดดน้ำเล่นกัน ตูมๆ จนรู้สึกอยากโดดลงไปบ้าง บางคนก็ลงมาอาบน้ำ บ้างก็ลงมาตักน้ำขึ้นบ้าน บ้างก็ตักน้ำไปรดน้ำต้นไม้ มองดูแล้วก็สนุกสนานเพลิดเพลินใจ

การที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวกเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง อาจเป็นเรื่องดีที่ชาวบ้านร้านตลาดจะได้นำผลิตผลจากในครัวเรือนออกวางขาย แต่สิ่งหนึ่งที่การท่องเที่ยวทริปนี้ไม่อยากให้มองข้ามเลย ก็คือความสะอาดของน้ำ ที่ดูเหมือนจะไม่ใสแจ๋วเช่นดั่งวันวาน

มาเริ่มกันที่เรื่องของอาหารคราวหวาน ที่พลาดไม่ได้เลยคงเป็น ก๋วยจั๊บตลาดน้ำดำเนินสะดวก ที่มนต์เสน่ห์ก็อยู่ที่พ่อค้าแม่ขายนั่งทำกันบนเรือลำเล็กๆ การจัดเรียงสิ่งของให้อุปกรณ์แต่ละอย่างวางได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่าขั้นเทพกันเลย ส่วนเรื่องของรสชาตินั้น ร้อน อร่อย นุ่มลิ้นกำลังดี

จากก๋วยจั๊บมาต่อกันที่ก๋วยเตี๋ยวเรือกันบ้าง กลิ่นหอมๆ เสิร์ฟมาในถ้วยเล็กๆ รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม อร่อยแบบสุดๆ แต่ที่ห้ามพลาดเลยคือการนั่งทานในเรือ เพราะจะได้บรรยากาศมากในยามที่ต้องระวังเรือลำข้างๆ เนื่องจากการจราจรทางน้ำแน่นขนัดพอควร

นอกจากอาหารการกินพวกของคาว ที่มีให้ชิมจนอิ่มแปล้ ก็อย่าลืมล้างปากด้วยผลไม้จากชาวบ้าน ทั้ง ส้มโอดำเนินสะดวก กล้วยสารพัดชนิด มะม่วง มะปราง หรือมะพร้าว ที่แค่บอกว่ามาจากดำเนินสะดวก ก็รู้แล้วว่าต้องรสชาติดีอย่างแน่นอน

ช่วงสองสามปีหลังมานี้คนไทยเราหันมานิยมฮิตตลาดน้ำกันมากครับ เรียกว่าเป็นเที่ยวกึ่งย้อนยุค กึ่งช้อปชิม ช่วงว่างวันหยุดเสาร์อาทิตย์ของชาวกทม. ที่มองหาที่เที่ยวนอกกรุงแบบไม่ต้องไปไหนไกล แบบว่าตื่นสายๆ  แล้วขับรถไป กลับมาเย็นๆ  ไม่เหนื่อยมาก

ผลก็คือ  ย่านตลาดน้ำเดิมที่รื้อฟื้นมารองรับนักเดินทางก็ได้รับความนิยมขึ้นมาไปตามๆ กัน  ที่สำคัญที่นี่ห่างจากพุทธมณฑลไม่ไกลแค่ราวๆ 25 กิโลเมตรเดินทางเท่านั้น ใครจะมาเที่ยวที่นี่ก็แวะมาได้ตามแผนที่จากโบร์ชัวร์ที่ทางตลาดทำมาเผยแพร่ด้านล่างครับ 

รวมทั้งที่ตลาดน้ำลำพญา ที่เป็นจุดขายแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ที่แวะไปมาครับ ที่น่าสนใจก็คือ  ตลาดน้ำที่นี่มีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ต่างจากที่อื่นคือเป็นเรือนแพริมน้ำต่อกันยาวอยู่ที่ท่าน้ำของวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาเมื่อราว 100 ปีก่อน  ตั้งแต่สมัยรัชการที่ห้า ที่นี่เมื่อก่อนเป็นชุมชนริมน้ำของชาวมอญและจีนรวมกันครับ 

ตลาดน้ำ อัมพวา

นอกจากการเที่ยวชมวิถีธรรมชาติแล้ว การท่องเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ อย่างเช่นการไหว้พระ ทำบุญ ที่ "วัดแว่นจันทร์" ซึ่งมีโบสถ์ไม้สักอายุกว่าร้อยปี ซึ่งเพิ่งผ่านการบูรณะมา แลดูสดใหม่ แต่ว่ากันว่า รูปลักษณ์ยังคงสถาปัตย์เก่าแก่สมัยต้นรัตนโกสินทร์โน่นทีเดียว ต่อกันที่ "วัดภุมรินทร์กุฎีทอง" มีกุฎีเป็นเรือนไม้สักทองขนาดใหญ่ เขียนลายรดน้ำปิดทองทั้งหลัง โดยพระมเหสีในรัชกาลที่ 1 เป็นผู้สร้างถวายเจ้าอาวาสในสมัยนั้น ตัวกุฎีแต่เดิมมีถึง 3 หลังแต่ถูกน้ำเซาะหายไปเหลือเพียงหลังเดียว ปัจจุบันภายในจัดเป็น"อัมพวา" เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของ จังหวัดสมุทรสงคราม บรรยากาศของที่นี่จะร่มรื่นไปด้วยสวนผสมริมน้ำ ทั้งลิ้นจี่ มะม่วง มะพร้าว มะละกอ กล้วย ส้มโอ ฯลฯ สารพัดผลไม้รอให้เรามาชื่นชม โดยเราสามารถหลบร้อนไปลงเรือล่องคลองชมสวน สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ชิมผลไม้ต่างๆ หรือซื้อกลับไปกินบ้านให้ชื่นฉ่ำใจก็ได้ไม่มีใครว่า หรือจะเลือกปั่นจักรยานเช่าถีบไปคู่ขนานกับท้องร่อง ก็ได้อรรถรสอีกแบบหนึ่ง   
พิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องใช้โบราณที่ชาวบ้านเอามาถวายวัดนั่นเอง